วันพฤหัสบดีที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2552

วันพุธที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2552

งานวิจัยคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย

ความเป็นมา- การพัฒนาคนเป็นจุดมุ่งหมายหลักของการพัฒนา โดยเฉพาะเด็กซึ่งเป็นเป้าหมายที่สำคัญในการพัฒนาศักยภาพของคน เพราะเด็กคืออนาคตของครอบครัว ของชุมชนและของประเทศชาติ ความหวังของประเทศชาติขึ้นอยู่กับคุณภาพของเด็กที่จะเจริญเติบโตเป็นผู้พัฒนาประเทศต่อไป เด็กในช่วงปฐมวัยเป็นระยะที่สำคัญที่สุดของการพัฒนาทั้งร่างกาย สติปัญญา สังคม และบุคลิกภาพ ประสบการณ์ที่เด็กได้รับในช่วงนี้มีอิทธิพลมากต่อการเสริมสร้างพื้นฐานความพร้อมสำหรับพัฒนาขั้นต่อไป การวางรากฐานที่ดีของชีวิตต้องวางที่ตัวทรัพยากรบุคคล ที่ส่งผลกระทบที่ดีในระยะยาวมากกว่าการปลูกฝังสร้างเสริมในช่วงอื่นของชีวิตช่วงอายุที่ปูพื้นฐานได้ดีที่สุดคือวัยต่ำกว่า 6 ขวบเป็นช่วงที่มีการพัฒนาสติปัญญาสูง การจัดการศึกษาให้เด็กในวัยนี้จึงเป็นการเตรียมเด็กให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีพร้อมจะเป็นพลเมืองที่ชาติต้องการ แก้ปัญหาของชาติบ้านเมืองได้ เด็กในช่วงปฐมวัยเหมาะสมในการวางรากฐานและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ เด็กทุกคนจะต้องได้รับการสนองตอบขั้นพื้นฐานเพื่อให้การพัฒนาดำเนินไปในทุกด้านให้บรรลุถึงศักยภาพของความเป็นมนุษย์โดยสมบูรณ์และสามารถใช้ชีวิตอย่างมีประโยชน์ต่อตนเองและสังคม หากมีการจัดสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเป็นการเตรียมความพร้อมให้เด็กซึ่งสามารถเรียนอะไรก็ได้เมื่อมีความพร้อมและความสำเร็จในชีวิตของเด็กขึ้นอยู่กับการเตรียมความพร้อมเป็นสำคัญ การจัดการเรียนให้ตรงกับสติปัญญาของเด็กจะช่วยให้เด็กที่เสียเปรียบด้านสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเสริมสร้างพัฒนาการด้านลักษณะนิสัยและสังคมนิสัย และลดการซ้ำชั้นในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แต่ถ้าให้เด็กเรียนโดยที่ยังไม่มีความพร้อมนอกจากจะไม่ประสบผลสำเร็จแล้วอาจทำให้เด็กเกลียดโรงเรียน กลัวครู เบื่อหน่าย เฉื่อยชา ขาดความสนใจในการเรียน แบบฝึกความพร้อมเป็นสื่อที่ครู ผู้ปกครองนิยมใช้กันมากเพราะเป็นการส่งเสริมพัฒนาการและเตรียมความพร้อมให้กับเด็กโดยเฉพาะ การให้เด็กทำแบบฝึกหัดจะช่วยเพิ่มแรงกระตุ้นและช่วยปลูกฝังและส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นผู้มีนิสัยใฝ่ศึกษาอย่างมีระบบและเป็นข้อมูลย้อนกลับให้แก่ผู้เรียน ซึ่งจะแสดงถึงจุดเด่นจุดด้อยของแต่ละบุคคลในเนื้อเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะการฝึกทักษะวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นวิชาที่เป็นนามธรรมเข้าใจยากจึงจำเป็นต้องมีการฝึกทักษะมาก เพื่อที่จะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันซึ่งต้องเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์อยู่ตลอดเวลา คณิตศาสตร์จึงเป็นประสบการณ์ที่ต้องจัดให้กับเด็ก ความสามารถของเด็กในวิชาคณิตศาสตร์ยังไม่อาจเทียบกับมาตรฐานการเรียนรู้ของชาติอื่นได้ การเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็กก่อนวัยเรียนจึงเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่น่าจะได้ผลดี นอกจากนี้แบบฝึกยังมีลักษณะรูปแบบที่สะดวกต่อการใช้สามารถนำติดตัวเพื่อใช้ในการฝึกทักษะได้ และสะดวกในการจัดหา มีพิมพ์จำหน่ายเป็นจำนวนมากตามร้านหนังสือทั่วไปและได้รับความสนใจมากจากครูและผู้ปกครองจากเหตุผลดังกล่าวจึงสนใจที่จะศึกษาวิเคราะห์รูปลักษณ์แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ ตลอดจนเนื้อหาของแบบฝึกที่พิมพ์จำหน่ายระหว่างปีพุทธศักราช 2530-2538 และเปรียบเทียบกับเกณฑ์ของแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนเพื่อเป็นประโยชน์ต่อครู ผู้ปกครอง ผู้แต่งและสำนักพิมพ์แนวคิดทฤษฎี-

วัตถุประสงค์

1. เพื่อวิเคราะห์รูปลักษณ์และเนื้อหาของแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนที่พิมพ์จำหน่ายระหว่างปีพุทธศักราช 2530 ถึง 2538
2. เพื่อเปรียบเทียบแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนที่พิมพ์จำหน่ายระหว่างปีพุทธศักราช 2530 ถึง 2538 กับเกณฑ์แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนสมมุติฐานการวิจัย
-ระเบียบวิธีวิจัย
- การวิจัยเชิงสำรวจ
ประชากร/กลุ่มตัวอย่างประชากร
เป็นแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนที่พิมพ์จำหน่ายระหว่างปีพุทธศักราช 2530-2538 จำนวน 220 เล่มกลุ่มตัวอย่าง เป็นแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน จำนวน 159 เล่ม โดยพิจารณาตามรายชื่อและเกณฑ์การเลือกกลุ่มตัวอย่าง1. เป็นหนังสือสำหรับเด็กวัยก่อนเรียนที่พิมพ์เป็นภาษาไทย2. พิมพ์จำหน่ายระหว่างปีพุทธศักราช 2530 ถึง 2538 โดยระบุชื่อสำนักพิมพ์ที่ชัดเจน3. เป็นแบบฝึกเด็กให้พร้อมที่จะเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้การคัดเลือกข้อใดข้อหนึ่งดังนี้3.1 ในคำนำของหนังสือมีข้อความบอกว่าเป็นหนังสือเพื่อเตรียมความพร้อมหรือปูพื้นฐานทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กวัยก่อนเรียน หรือ3.2 พิจารณาจากเนื้อหาในหนังสือและคัดเลือกเฉพาะที่เป็นแบบฝึก เพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ตัวแปร
-นิยามศัพท์-
1 แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ หมายถึง แบบฝึกที่เตรียมเด็กให้พร้อมในการเรียนคณิตศาสตร์ซึ่งเป็นหนังสือที่พิมพ์ โดยโรงพิมพ์ของหน่วยงานรัฐบาลที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาก่อนภาคบังคับ หรือพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เอกชน จุดประสงค์ของหนังสือเพื่อเตรียมความพร้อมด้านการเรียนหรือประสบการณ์ทางการเรียน ด้านทักษะเบื้องต้นทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน
2 เกณฑ์ของแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน หมายถึง เกณฑ์ของ แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ด้านรูปลักษณ์และเกณฑ์ของแบบฝึกความพร้อมด้านเนื้อหา
3 รูปลักษณ์ของแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ หมายถึง ข้อมูลทั่วไปของแบบฝึก การจัด รูปเล่ม ตัวอักษรที่ใช้ ภาพประกอบที่ใช้ และการนำเสนอเนื้อหาแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์
4 เนื้อหาของแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ หมายถึง สิ่งที่แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนได้เสนอให้กับเด็ก ซึ่งปรากฏอยู่ในวัตถุประสงค์ของผู้แต่งและกิจกรรม ที่ใช้ฝึกในแต่ละครั้งหรือแต่ละตอน
5 เด็กก่อนวัยเรียน หมายถึง เด็กวัย 2 ถึง 6 ขวบ เป็นวัยที่กำลังเรียนอยู่ในระดับอนุบาล ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการเตรียมความพร้อมทางการเรียนก่อนจะเรียนในชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
-
แบบสอบถามโดยการตรวจสอบและการเติมคำ และตารางวิเคราะห์แบบฝึกความพร้อมทาง คณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนวิธีการรวบรวมข้อมูล
-
การวิเคราะห์ข้อมูล
-
ค่าร้อยละ

สรุปผลวิจัย
- ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์ สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนปรากฏผลดังนี้
1.1 ด้านรูปลักษณ์
1.1.1 ข้อมูลทั่วไป แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนส่วนใหญ่ จัดพิมพ์เป็นชุดโดยสำนักพิมพ์เอกชน ผู้แต่งเป็นคณะ ราคาตั้งแต่ 6 ถึง 48 บาท
1.1.2 การจัดรูปเล่ม แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนส่วนใหญ่มีรูปเล่มสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง ขนาด 8 หน้ายก จำนวน 32 หน้าขึ้นไป เย็บเล่มโดยวิธีเย็บอก หน้าปกเป็นกระดาษอาร์ตเคลือบสารเคมี ภาพหน้าปกเป็นภาพวาดการ์ตูนสี่สี
1.1.3 ตัวอักษร ส่วนใหญ่เป็นสีดำ ขนาด 24-48 ปอยท์ พื้นหลังตัวอักษร เป็นสีขาว
1.1.4 ภาพประกอบ ส่วนใหญ่เป็นภาพวาดการ์ตูน ใช้กระดาษปอนด์ในการพิมพ์เนื้อหา
1.1.5 นำเสนอเนื้อหา แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนทุกเล่มมีชื่อของแบบฝึกหรือมีจุดมุ่งหมายของผู้แต่งสอดคล้องกับเนื้อหาภายในเล่ม เนื้อหามีความสัมพันธ์กับเนื้อหาในแบบฝึกทักษะเบื้องต้นทางคณิตศาสตร์ตามแนวการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ มีภาพประกอบเหมาะสมกับคำสั่ง ลักษณะของคำสั่งเป็นการให้ทำเครื่องหมายตามคำสั่ง
2. เมื่อเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์แบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์กับเกณฑ์ปรากฏผลดังนี้
2.1 ด้านรูปลักษณ์ของแบบฝึกความพร้อม ส่วนใหญ่จะสอดคล้องกับเกณฑ์ ซึ่งเป็นความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ คือ มีการจัดพิมพ์เป็นชุด รูปเล่มสี่เหลี่ยมผืนผ้าแนวตั้ง ขนาด 8 หน้ายก เย็บเล่มโดยวิธีเย็บอก หน้าปกเป็นกระดาษอาร์ต ภาพปกเป็นภาพวาดการ์ตูนสี่สี ตัวอักษรสีดำ ขนาด 24-48 ปอยท์ พื้นหลังตัวอักษรเป็นสีขาว ภาพประกอบเป็นภาพวาดการ์ตูน มีชื่อของแบบฝึกหรือจุดมุ่งหมายของผู้แต่งสอดคล้องกับเนื้อหาภายในเล่ม เนื้อหามีความสัมพันธ์กับเนื้อหาของการฝึกทักษะเบื้องต้นทางคณิตศาสตร์ตามแผนการจัดประสบการณ์ชั้นอนุบาล ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ มีภาพประกอบเหมาะสมกับคำสั่ง ลักษณะของคำสั่งเป็นการให้ทำเครื่องหมายตามคำสั่ง ด้านรูปลักษณ์ของแบบฝึกความพร้อมที่ไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ คือ หน้าปกที่เคลือบด้วยสารเคมี จำนวนหน้าที่มากกว่า 32 หน้า และการใช้กระดาษปอนด์พิมพ์เนื้อหาภายในเล่ม
2.2 ด้านเนื้อหา เนื้อหาแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียนมีความสอดคล้องกับเกณฑ์ ของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ที่พบมาก คือ เนื้อหาในการฝึกความเข้าใจความหมายของตัวเลข จำนวน การบวก การลบและสัญลักษณ์ต่าง ๆ และการฝึกใช้ประสาทสัมพันธ์ระหว่างตากับมือ ซึ่งมีถึง ร้อยละ 81.27 และร้อยละ 72.45 ตามลำดับ และที่พบน้อย คือ เนื้อหาในการฝึก ความเข้าใจเกี่ยวกับการวัดชั่งตวงและคาดคะเนซึ่งมีเพียง ร้อยละ 4.41
ข้อเสนอแนะ
-
1. ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้
1.1 สำนักพิมพ์และผู้แต่งควรจะผลิตหนังสือ โดยคำนึงถึงความเหมาะสมของพัฒนาการและความต้องการของเด็กมากกว่าจะคำนึงถึงความต้องการของผู้ใหญ่
1.2 สำนักพิมพ์และผู้แต่งควรผลิตแบบฝึกสำหรับเด็ก ซึ่งเป็นแบบฝึกที่เด็กสามารถทำได้ด้วยตนเอง
1.3 ผู้แต่งควรจะนำเสนอเนื้อหาในลักษณะที่ให้อิสระให้เด็กได้ฝึกคิด ได้ค้นหา
1.4 ผู้แต่งควรจะนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจ ของเด็กมากกว่านำเสนอในรูปของแบบฝึกหัดที่ประกอบแบบเรียน
1.5 สำนักพิมพ์ควรจะรักษาคุณภาพในด้านต่าง ๆ ของการผลิต
1.6 ครูและผู้ปกครองควรศึกษาคำอธิบายวิธีใช้แบบฝึกให้เกิดความเข้าใจตรงกันกับจุดมุ่งหมายของผู้แต่ง
2. ข้อเสนอแนะเพื่อการวิจัยครั้งต่อไป
2.1 ควรมีการวิเคราะห์กลวิธีในการเขียนแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน ในเรื่องการจัดลำดับเนื้อหา วิธีการนำเสนอเนื้อ
2.2 ควรมีการพัฒนาแบบฝึกความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน ในด้านรูปลักษณ์ เนื้อหา และวิธีการนำเสนอเนื้อหา

เรื่องเพลงสำหรับเด็กปฐมวัย L O 1.4.3/6

การสอนส่วนมากจะเกี่ยวกับการร้องเพลงเพลงที่สอนเด็กปฐมวัยมีเนื้อร้องที่ช่วยพัฒนาและให้ความรู้แก่เด็กหลายด้านเช่น
1. ด้านร่างกายหรือด้านพลานามัยในการสอนนี้ผู้สอนต้องใช้ท่าทางประกอบ เนื่องจากชอบการเคลื่อนไหวไม่ชอบอยู่นิ่ง ในการร้องเพลงควรทำท่าประกอบด้วย เด็กจะได้ทำท่าตามครูหรือคิดขึ้นเอง


1. ส่งเสริมด้านการออกกำลังกาย เช่น

เพลงกายบริหาร

กำมือขึ้นแล้วหมุน หมุน ชูมือขึ้นโบกไปมา (ซ้ำ)
กางแขนขึ้นและลง พับแขนขึ้นแตะไหล่
กาวแขนขึ้นและลง ชูขึ้นตรงหมุนไปรอบตัว

ผู้แต่ง ครีนวล รัตนสุวรรณ


2. ปลูกฝังด้านสุขนิสัยเช่น

เพลง แปรงฟัน
แปรงซิ แปรง แปรงฟัน ฟันหนูสวยสะอาดดี
แปรงขึ้น แปรงลงทุกที่ สะอาดดีเมื่อหนูแปรงฟัน

ผู้แต่ง เตือนใจ ศรีมารุต

เพลงอย่าทิ้ง
อย่าทิ้ง อย่างทิ้ง อย่าทิ้ง ทิ้งแล้วจะสกปรก
ถ้าเราเห็นมันรก ต้องเก็บ ต้องเก็บ ต้องเก็บ

ผู้แต่ง เตือนใจ ศรีมารุ


2. ด้านอารามณ์ ขณะที่เด็กร่วมร้องเพลงหรือทำท่าทาง เด็กมีอาการร่างเริงแจ่มใสสนุกสนาน ดวงตาเป็นประกายอย่างมีความสุขเมื่อเขาทำได้ เพลงจะช่วยคลายเครียด มีความสดชื่นบางเพลงทำให้สนุกเช่น


เพลง ตุ๊บป่อง

ติง ตลิง ติงต๊อง เรือเราลอย ตุ๊บป่อง
ลอยไปตามน้ำไหล ลอยไป ลอยไป ในคลอง
ตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง ตุ๊บป่อง

ผู้แต่ง ฐะปะนีย์ นาครทรรพ

3. ด้านสังคม เด็กมาโรงเรียนจะต้องเข้าสังคมใหม่ และสถานที่ใหม่ เพื่อนใหม่ ครู หรือคนอื่นๆ สิ่งที่จัช่วยให้เด็กคุ้นเคย และเข้ากับผู้อื่นได้ก็ใช้เพลงเป็นสื่อ ช่วยให้เด็กสนิทสนม กับครูและเพื่อน เนื้อเพลงที่ร้องเช่น
เพลงสวัสดี
สวัสดี สวัสดี ยินดีที่พบกัน
เธอกับฉัน พบกันสวัสดี

ผู้แต่ง ศรีนวล รัตนสุวรรณ

4. ด้านสติปัญญา เพลงช่วยให้มีความรู้ และเข้าใจเรื่องราวต่างๆ ได้ดี ช่วยให้จำได้เร็วกว่า การบอกเล่า ฝึกให้รู้จักคิดและได้ความรู้เช่ย
คณิตศาสตร์ ช่วยให้เด็กมีความเข้าใจ และจดจำเกี่ยวกับจำนวน หรือความหมายขอบงคำ ทางคณิตศาสตร์เช่น
เพลงนกกระจิบ

นั่นนกบินมาลิบๆ นกกระจิบ 1,2,3,4,5
อีกฝูงบินล่องลอยมา 6,7,8,9,10ตัว

ผู้แต่ง ศรีนวล รัตนสุวรรณ

เพลง แม่ไก่ออกไข่
แม่ไก่ออกไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง ไข่วันละฟอง
แม่ไก่ของฉันไข่ทุกวัน หนึ่งวันได้ไข่หนึ่งฟอง
2 วันได้ไข่ 2ฟอง จนถึง10ฟอง

ผู้แต่งศรีนวล รัตนสุวรรณ

เห็นไหมค่ะเพื่อนๆ เพลงมีคุณค่าแก่เด็กมากมายการที่เด็กได้ร้องเพลง ได้ทำท่า
ตามเนื้อเพลงหรือตามจังหวะ จะช่วยไม่ให้เด็กเบื่อการเรียน ทั้งช่วยให้ทุกส่วนของกล้ามเนื้อ ตลอดจน ตา หู มือ เท้า มีความคล่องว่องไว และช่วยพัฒนาร่างกายของเด็กได้ดี อีกทั้งได้รับความสนุกสนานและความรู้ด้วย

ที่มา เอกสารประกอบการอบรมอาสาสมัครผู้ดูแลเด็ก